Git คือเครื่องมือช่วยในเรื่องการจัดการไฟล์งานเพื่อทำงานร่วมกันหลาย ๆคน หรือการ backup งาน การะแบ่งกลุ่มของไฟล์งาน การย้อนกลับกรณีทำไปแล้วเกิดข้อผิดพลาด ประโยชน์คร่าว ๆ ของมันครับ
ถ้าคนเป็น devloper แล้วทีมของคุณยังไม่มีการใช้งาน git ยังคงใช้ ftp แบบเดิม ๆ คุณคงจะนึกภาพออกว่า ขึ้นงานแต่ล่ะทีคุณต้องเสียเวลา ftp เข้าไปคลิ๊กไปยัง path ที่จะแก้ไฟล์หรือเขียนไฟล์ใหม่ แล้วก็ลากแล้ววางไฟล์ ถ้าวันนั้นโชคร้ายเผอิญเพื่อนร่วมงานของคุณ แก้ไฟล์เดียวกันกับคุณ แล้วเขาก็อัพมาทับไฟล์งานของคุณ แต่คุณไม่รู้ ไม่อยากจะคาดคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้ามันอยู่บน production แล้วใน ftp ไฟล์คุณจะเห็น _bak .bk สารพัด พากันไป backup ไฟล์ไว้บนนั้น กลายเป็นขยะ ปัญหาพวกนี้จะหมดไปถ้าคุณใช้ "git" แบบถูกวิธีนะ ย้ำว่าถูกวิธี
git เองสามารถทำงานได้ทั้งแบบ gui คือมีรูปร่างหน้าตา interface หรือแบบ command line ก็ได้ แต่จริง ๆ ยังไง ผมแนะนำให้ใช้ gui ซึ่งมันช่วยลดภาระของเราได้เยอะ ไม่ใช่แค่ลดการพิมพ์คำสั่ง แต่ยังช่วยทำให้คำสั่งง่ายเช่นการ rollback , git flow หรืออื่น ๆ ซึ่ง comand line push ที pull ทีนี่ต้องพิมพ์เสียเวลา แต่หากใช้ gui แค่คลิ๊กแค่ไม่กี่ทีก็ได้ แต่แน่นอนว่าหากคุณอยากแม่นเรื่อง git คุณต้องเข้าใจพวกคำสั่งเหล่านั้นเอาไว้ด้วยเช่นกัน เพราะบางอย่างคุณจำเป็นต้องใช้คำสั่งเหมือนกัน เช่นการ clear cache หรืออื่น ๆ
สิ่งที่จำเป็นที่จะต้องมีในการใช้งาน
สิ่งที่จำเป็นที่จะต้องมีในการใช้งาน
- source tree
- ก่อนอื่นหากยังไม่ได้ติดตั้งโปรแกรม source tree ซึ่งสามารถดาวโหลดได้ทั้ง windows & mac ดาวโหลดได้ที่นี่ https://www.sourcetreeapp.com/
- hosting git สร้างบัญชีผู้ใช้งาน
- free limit using
- gitlab
- github
- bitbucket
- manal
- git server [สร้างของตัวเอง ]
- premium
- github
- bitbucket
หน้าตาของ source tree
จะขอยกตัวอย่างการเชื่อมโยง source tree เข้ากับ bitbucket แต่อย่าลืมนะครับก่อนจะมาถึงขั้นตอนนี้ต้องทำการติดตั้งโปรแกรม source tree ให้เรียบร้อย ซึ่งการติดตั้งก็เหมือนโปรแกรมทั่ว ๆ ไป ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ขอข้ามมาดูขั้นตอนการตั้งค่าในส่วนของการใช้งาน bitbucket ซึ่งจะ host git เพื่อนำไฟล์ของเราไปฝากไว้นั้นเอง มาดูกันว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง
- ไปที่เว็บไซต์ https://bitbucket.org/
- หากยังไม่ได้เป็นสามาชิกให้สมัครสมาชิกก่อนซึ่งวิธการก็เหมือนกับเว็บไชต์ทั่วไปครับ สามารถเข้าไปสมัครที่ https://bitbucket.org/account/signup/ ได้เลยครับ หรืออีกทางเลือกคือ login ผ่านทาง google account ได้เลยสะดวกมาก ในเรื่องรายละเอียดการสมัครข้อข้ามไปน่ะครับเเชื่อว่าน่าจะทำได้ไม่ยากนัก
- สร้าง repository ของตัวเองขึ้นมา
- เข้าไปที่ https://bitbucket.org/repo/create เพื่อสร้าง repository ใหม่ หรือวิธีคือเลือกที่เมนู repositories -> Create Repositories
- สามารถตั้งชื่อ repositoy name อะไรก็ได้ครับ access level เราสามารถให้เป็น public repositoy ได้นั้นหมายความว่าคนอื่นสามารถเข้ามา pull code ของเราได้นั้นเอง แต่หากเป็นโปรเจ็คภายใน หรือไม่อยากเปิดเผยแนะนำให้เลือกเป้น private repository Repository type ให้เลือกเป็น Git เพราะเราจะใช้ source tree ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดการ git นั่นเอง เสร็ดแล้วก็กดที่ปุ่ม Create repository ได้เลย
- ขั้นตอนต่อมาเราจะทำการ clone repository git ที่สร้างขึ้นมาเมื่อสักครู่มายังเครื่องของเรา หลังจากที่เรากดที่ปุ่ม Create repository หน้าเว็บจะพา redirect มายัง repository ที่ถูกสร้างขึ้น เราจะเห็นเมนูด้านข้างขึ้นมาดังภาพด้านล่าง และให้เลือกที่เมนู clone คัดลอก url มา
- ต่อมาไปเปิดโปรแกรม source tree ขึ้นมา เลือกเมนู new repositoy -> clone from url นำ url ที่คัดลอกมาเมื่อสักครู่วางลงไปในช่อง Source url ดังภาพ
destination path คือ path ในเครื่องเราที่จะสร้างขึ้นเพื่อใช้งาน git ,Name คือชื่อโปรเจ็คใน local สามารถแก้ไขได้ทั้งสอง พอเลือกได้แล้วต่อมาทำการ กดที่ปุ่ม clone เพื่อทำการ clone โปรเจ็คจาก bitbucket มายังเครื่องของเรา เพียงเท่านี้เราก็สามารถใช้งาน bitbucket ได้แล้ว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น